–Workplace Ventilation: Productivity and Health
ในขณะที่หลายคนกลับไปทำงานในที่ทำงานกันมากขึ้น การสร้างวิธีกำจัดอากาศที่ไม่ดีด้วยการระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพีนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง การปรับปรุงการระบายอากาศภายในอาคารไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานเท่านั้น แต่ยังทำให้สถานที่ทำงานมีความปลอดภัยและมีสุขอนามัยที่ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการกำหนดกรอบความคิด เราพุ่งเป้าไปที่สภาพแวดล้อมในที่ทำงานและขั้นตอนการดำเนินการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้แก่พนักงาน
ในบทความนี้คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ:
- การระบายอากาศที่ไม่ดีส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงานอย่างไร
- คุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ) คืออะไร
- เกี่ยวกับกลุ่มอาการป่วยเหตุอาคาร (SBS)
- เคล็ดลับการระบายอากาศด้วยธรรมชาติ
- วิธีการใช้เครื่องปรับอากาศที่ถูกต้อง
- เทคโนโลยีที่ Hitachi Cooling & Heating มอบให้
การระบายอากาศคืออะไร?
ก่อนจะเข้าเรื่องการระบายอากาศ รู้หรือไม่ว่าการระบายอากาศหมายถึงอะไร? การระบายอากาศก็คือการที่อากาศภายนอกบ้านถูกนำพามาเข้ามาภายในบ้านเพื่อเจือจางสิ่งปนเปื้อนในอากาศที่อยู่ในบ้าน ที่ค่อยๆ ก่อตัวตามกาลเวลา
เราทุกคนต่างเคยมีประสบการณ์สัมผัสกับการระบายอากาศที่ทำให้คุณรู้สึกถึงอากาศร้อนและหนักกำลังก่อตัว ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าหมดพลัง และยังเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการมีสมาธิ ความรู้สึกเหล่านี้เป็นสัญญาณที่มักบ่งบอกได้ว่ากำลังเกิดปัญหาการระบายอากาศขึ้นซึ่งจำเป็นต้องแก้ไข
การระบายอากาศที่เหมาะสมสำหรับพื้นที่ภายในอาคารถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ ของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่ทำงาน ซึ่งจะต้องให้ความใส่ใจกับการรักษาประสิทธิภาพการทำงาน ความสบาย และสุขภาพอย่างสมดุล
การระบายอากาศที่ไม่ดีส่งผลต่อพนักงานอย่างไร?
การระบายอากาศที่ไม่ดีเป็นตัวเร่งที่ก่อให้เกิดปัญหาด้านสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของพนักงาน หากไม่มีการระบายอากาศที่เหมาะสมจะทำให้เกิดการก่อตัวของความชื้น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เชื้อโรค และแหล่งกำเนิดมลพิษในอากาศภายในอาคารได้ ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้มักถูกนำมาพูดถึงด้วยกันในเรื่องเกี่ยวกับคุณภาพอากาศภายในอาคารบ้านเรือน (Indoor Air Quality :IAQ) โดยเมื่อ IAQ ลดลงจะทำให้ความเสี่ยงในการเกิดอาการและความเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น ได้แก่อาการดังต่อไปนี้
- เมื่อยล้าและขาดสมาธิ
- ปวดศีรษะ ภาวะภูมิไวเกิน และภูมิแพ้
- คลื่นไส้วิงเวียนศีรษะ
- ผื่นผิวหนัง
- ความเครียดเพิ่มขึ้น
- คอแห้งและผิวแห้ง (ความชื้นต่ำทำให้อากาศแห้ง)
- ไข้หวัด (ความชื้นสูงอาจทำให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย)
จะเห็นได้ว่าความรู้สึกร้อนไม่สบายตัวไม่เพียงเกี่ยวข้องกับแค่คุณภาพอากาศภายในอาคารที่ไม่ดีเท่านั้น การศึกษาวิจัยโดย Ambius พบว่า 40% ของคนงานในสหรัฐฯเจ็บป่วยด้วยเหตุจากคุณภาพอากาศที่ย่ำแย่ในที่ทำงาน เมื่ออาคารส่งผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ในตัวอาคาร ในลักษณะเช่นนี้เราเรียกว่ากลุ่มอาการป่วยเหตุอาคาร (Sick Building Syndrome :SBS) กลุ่มอาการป่วยที่ว่านี้มักมีลักษณะอาการระคายเคืองตา จมูกและคอ รวมถึงเหนื่อยหอบ แต่ยังสามารถเกิดร่วมกับอาการอื่นได้
กลุ่มอาการป่วยเหตุอาคาร
กลุ่มอาการป่วยเหตุอาคาร (Sick Building Syndrome หรือ SBS) สามารถเกิดขึ้นได้ในห้องหรือโซนพื้นที่หนึ่งหรือทั้งอาคารขึ้นอยู่กับว่าพื้นที่เหล่านี้มีการใช้งานอย่างไร เป็นสิ่งที่ใช้อธิบายถึงอาการที่สำคัญด้านสุขภาพ (และความสบาย) ที่มีต่อคน ๆ หนึ่งเมื่อต้องใช้เวลาอยู่ในห้องหนึ่ง ๆ ซึ่ง SBS มักเชื่อมโยงกับการระบายอากาศและคุณภาพอากาศในอาคารที่ไม่ดี แต่กระนั้น แสงและเสียงก็สามารถก่อให้เกิดอาการได้เช่นกัน
ผู้ที่ป่วยด้วยกลุ่มอาการเหตุอาคารจะพบว่าเมื่อตัวเองออกจากพื้นที่นั้นสุขภาพและสภาวะของตัวเองจะดีขึ้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของพนักงานที่จะเจ็บป่วยจากกลุ่ม SBS ในขณะทำงาน การรักษาปรับปรุงคุณภาพอากาศและการมีการระบายอากาศที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
วิธีการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาการสำนักงาน
นี่คือวิธีที่ช่วยเพิ่มการระบายอากาศในสถานที่ทำงานเพื่อช่วยรักษาประสิทธิภาพการทำงานให้อยู่ในระดับที่ดีเยี่ยมและมีสภาพแวดล้อมในออฟฟิศที่ถูกสุขภาวะมากยิ่งขึ้น
เคล็ดลับการระบายอากาศด้วยธรรมชาติ
- การเปิดหน้าต่าง ไม่จำเป็นต้องทำงานในออฟฟิศที่มีลมพัดผ่านหรอก เพียงแค่มีหน้าต่างที่เปิดออกบางส่วนตามจุดต่าง ๆ ของห้องหรือโซนพื้นที่ก็เพียงพอแล้วเพื่อให้มั่นใจว่ามีอากาศไหลเวียนเพียงพอโดยไม่ก่อให้เกิดกระแสลมที่ทำให้รู้สึกไม่สบาย
- การระบายอากาศแบบลมผ่านอาคาร เป็นวิธีที่ดีในการระบายอากาศแบบธรรมชาติให้กับห้องและโซนพื้นที่ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกัน ยกตัวอย่าง การทำให้เกิดกระแสลมผ่านโดยการเปิดหน้าต่าง การค้ำยันให้ประตูเปิดไว้ (ยกเว้นประตูหนีไฟ) และการเปิดหน้าต่างในส่วนอื่นของสำนักงาน
- เปิดพื้นที่ออฟฟิศทั้งหมดให้ได้รับอากาศ เพื่อคลายความอึดอัดของสภาพแวดล้อมภายในอาคารและเปลี่ยนอากาศใหม่ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำในช่วงของวันที่มีมีคนอยู่ในอาคารน้อย ๆ เช่นในช่วงพักกลางวัน
การใช้เครื่องปรับอากาศอย่างถูกวิธี
ในออฟฟิศที่ต้องอาศัยเครื่องปรับอากาศเพื่อทำความร้อนหรือให้ความเย็นกับพื้นที่นั้น แนะนำให้เปิดหน้าต่างและประตูเป็นประจำเพื่อให้มีการเปลี่ยนอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ หรือถ้ามีพัดลมระบายอากาศก็สามารถใช้ได้เพื่อนำอากาศสดชื่นเข้ามาในห้อง
เทคโนโลยีการระบายอากาศจาก Hitachi Cooling & Heating
การระบายอากาศของเรามาในรูปแบบอุปกรณ์ที่สามารถทำงานได้เพียงลำพัง หรือใช้ร่วมกับเครื่องปรับอากาศภายในอาคารของฮิตาชิโดยเชื่อมผ่านช่อง Fresh Air นอกจากนั้นเรายังมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำมาประกอบรวมเข้ากับเครื่องระบายอากาศและระบบปรับอากาศของคุณได้เพื่อรักษาและปรับปรุงคุณภาพอากาศ
Active KPI – เป็นชุดอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อทำการบำบัดอากาศด้านนอกก่อนที่จะเข้าสู่การหมุนเวียน เพื่อส่งอากาศที่สะอาดสดชื่นเข้าสู่ภายในอาคารและทำการปรับอากาศให้ได้อุณหภูมิตามที่ต้องการ
Econofresh – ชุดอุปกรณ์เปลี่ยนอากาศของเราช่วยทำความเย็นให้กับพื้นที่อย่างเป็นธรรมชาติด้วยโหมด Free Cooling ซึ่งเป็นการใช้อากาศภายนอกเพื่อทำให้พื้นที่ภายในอาคารเย็นนั่นเอง ผลิตภัณฑ์นี้ไม่เพียงแต่ส่งอากาศที่สดชื่นเข้าไปยังพื้นที่ภายในอาคารเท่านั้นแต่ยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย
CO2 Sensor – เมื่อนำไปใช้ร่วมกัน เซนเซอร์ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมนี้จะทำการตรวจสอบและจัดการระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยปรับการทำงานของเครื่องโดยอัตโนมัติเพื่อไม่ให้อากาศนิ่งหรือทำให้รู้สึกอึดอัด
หากคุณสนใจทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล่านี้และวิธีการช่วยเหลือคุณจาก Hitachi Cooling & Heating ในการปรับปรุงการระบายอากาศและคุณภาพอากาศให้ดีขึ้น สามารถเยี่ยมชมได้ที่นี่ เครื่องปรับอากาศสำหรับสำนักงาน | แอร์ Hitachi | ประเทศไทย (hitachiaircon.com)
ตรวจสอบความพร้อมจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ในภูมิภาคของคุณ
*1 แผ่นกรอง Wasabi Air Purifying Filter ผ่านการทดสอบจากมหาวิทยาลัยปุตราประเทศมาเลเซีย
*2 แผ่นกรอง Wasabi Air Purifying Filter ผ่านการทดสอบจากมหาวิทยาลัยการแพทย์นานาชาติประเทศมาเลเซีย
*3 แผ่นกรอง Wasabi Air Purifying Filter ผ่านการทดสอบจาก Nanopac Testing Lab
*4 ระบบสแตนเลสสตีลผ่านการทดสอบจากห้องปฏิบัติการทดสอบด้านสิ่งแวดล้อมของฮิตาชิ
โดย Hitachi Cooling & Heating