–เทคโนโลยีการควบคุมสภาพอากาศเพื่อสร้างความสบายในสภาวะความร้อนรุนแรง
ในบางพื้นที่ การอยู่ในบ้านที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศเป็นสิ่งที่ยากลำบากเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงอย่างรัฐอาริโซนาและดูไบ หรือพื้นที่ที่มีอากาศเย็นยะเยือกอย่างแคนาดาหรือแถบอเมริกาตอนเหนือขึ้นไป การรักษาสภาวะอากาศที่สบาย (Thermal Comfort) ให้เหมาะสมในช่วงสภาวะอากาศรุนแรงเช่นนี้ สามารถทำได้ด้วยเทคโนโลยีการทำความเย็นและความร้อนที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ
ในวันนี้เราจะมาพูดถึงเทคโนโลยี Cooling & Heating จากฮิตาชิ ที่ช่วยให้เราสามารถสร้างชีวิตที่สบายได้ โดยเฉพาะสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในสถานที่ที่สภาวะอากาศรุนแรงอย่างมาก
ในบทความนี้เราจะ:
- อธิบายว่าสภาวะสบาย (Thermal Comfort) คืออะไร
- การจำแนกระดับของสภาพอากาศ (Temperature Classification) ของผลิตภัณฑ์
- ค้นหาเทคโนโลยีที่เรามีเพื่อสร้างความสบายในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง
สภาวะสบาย (Thermal Comfort) คืออะไร?
สภาวะสบาย (Thermal Comfort) คือ การที่คนเรารู้สึก ว่าอบอุ่นหรือเย็นสบายอย่างพอดี ซึ่งเป็นผลลัพธ์ของปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่ อุณหภูมิสภาพแวดล้อม ความชื้น อัตราเร็วลม เสื้อผ้า รูปร่าง อายุ ระดับความความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย เป็นต้น ซึ่งตัวชี้วัดสภาวะสบายที่พบมากที่สุดนั้น คือ อุณหภูมิของอากาศ เพราะเมื่ออุณหภูมิของอากาศสูงหรือต่ำเกินไป ก็จะส่งผลต่ออารมณ์ ประสิทธิภาพในการทำงาน พลังงาน และสมาธิ ซึ่งมักจะถดถอยหรือน้อยลงไปเมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน สถานที่พักผ่อนและสถานบันเทิงต่าง ๆ สภาวะความสบายภายในอาคารถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในการจัดการและควบคุม ข้อมูลจากสมาคมวิศวกรรมการ
ทำความร้อนและความเย็น และระบบปรับอากาศแห่งอเมริกา (American Society of Heating, Refrigerating and Air-Conditioning Engineers (ASHRAE)) ระบุว่า อุณหภูมิแนะนำที่เหมาะสม อยู่ระหว่าง 24 – 27 องศาเซลเซียสในช่วงฤดูร้อน และระหว่าง 20 – 24 องศาเซลเซียสในช่วงฤดูหนาว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยข้างต้น รวมถึงความชอบส่วนตัวด้วย
การจำแนกระดับของสภาพอากาศ
เมื่อพูดถึงอุณหภูมิเรามักนึกถึงคำว่าเซลเซียสหรือฟาเรนไฮต์ ซึ่งเป็นหน่วยวัดที่ใช้กันมากที่สุดทั่วโลก หน่วยวัดเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในรูปแบบของเทอร์โมมิเตอร์และเซ็นเซอร์ เพื่อชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิของสภาพแวดล้อมทั้งภายในอาคารหรือกลางแจ้งขณะที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิรุนแรง ยังมีการจำแนกระดับของสภาพอากาศอีกอย่างหนึ่ง ที่ถูกนำมาใช้ร่วมกับสภาพอากาศและเครื่องปรับอากาศในพื้นที่นั้นๆ ระบบการจำแนกระดับของสภาพอากาศ มีตั้งแต่ T1 ถึง T3 จะถูกนำมาใช้ในเครื่องปรับอากาศ เพื่อแบ่งระดับอุณหภูมิสภาวะแวดล้อมของสภาพอากาศต่างๆ ทั่วโลกเพื่อความเหมาะสมในการทำงานของเครื่องปรับอากาศในแต่ละพื้นที่
อุณหภูมิสภาพแวดล้อมที่มีระดับ T1 อยู่ระหว่าง -7 ถึง +43 องศาเซลเซียส, ระดับ T2 อยู่ระหว่าง -7 ถึง +35 องศาเซลเซียส, และระดับ T3 อยู่ระหว่าง -7 ถึง +52 องศาเซลเซียส จะเห็นได้ว่า ผลิตภัณฑ์ระดับ T1 จะเหมาะสำหรับสถานที่ที่มีอุณหภูมิปานกลาง ระดับ T2 สำหรับสถานที่ที่มีอุณหภูมิต่ำ และสุดท้ายระดับ T3 เหมาะสำหรับภูมิภาคที่ที่มีอุณหภูมิสูง อย่างเช่นภูมิภาคตะวันออกกลางและแถบทวีปแอฟริกา
ในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ จำเป็นต้องพิจารณาถึงการจำแนกระดับของสภาพสภาพอากาศระบบนี้ด้วย เพื่อจะได้สามารถควบคุมอุณหภูมิและการทำงานของเครื่องปรับอากาศได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย
สร้างความสบายในสภาพอากาศร้อน
ในบทความนี้ เราจะพูดถึงภูมิภาคตะวันออกกลางและทวีปแอฟริการวมถึงประเทศในแถบอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องการเครื่องปรับอากาศที่สามารถทำงานได้ในสภาพอากาศระดับ T3 ในภูมิภาคนี้ เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์รุ่น PRIMAIRY ของฮิตาชิได้รับการพัฒนาให้สามารถทนต่อสภาพอากาศสภาพแวดล้อมภายนอกที่มีอุณหภูมิสูงได้ ซึ่งในระดับ T3 นั้นระดับอุณหภูมิอาจจะสูงถึง 52 องศาเซลเซียส เครื่องปรับอากาศประเภทต่อท่อลมและประเภทฝังฝ้ารุ่น PRIMAIRY ของฮิตาชิสามารถทำงานได้ในสภาพอากาศระดับ T3 และที่อุณภูมิสภาพแวดล้อมภายนอก 56 องศาเซลเซียส
หนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เครื่องปรับอากาศประเภทต่อท่อลมและประเภทฝังฝ้าสามารถทำงานได้ในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิรุนแรงเช่นนี้ คือ การที่เครื่องปรับอากาศสามารถทำงานได้ที่อุณหภูมิ 56 องสาเซลเซียสโดยไม่สะดุดหรือก่อให้เกิดปัญหาทางเทคนิคใดๆ เจ้าของธุรกิจจึงสามารถมั่นใจได้ถึงการทำงานที่ต่อเนื่องของเครื่องปรับอากาศซึ่งจะไม่รบกวนความสบาย และเป็นการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าอีกทางหนึ่ง
ในกลุ่มผลิตภัณฑ์รุ่น PRIMAIRY ทั่วโลก เราพยายามอย่างมากที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีการป้องกันสูง ในบางภูมิภาค มีการนำเทคโนโลยีการเคลือบ Gold Fin มาใช้เพื่อปกป้องคอยล์ร้อนที่ต้องติดตั้งภายนอก เพื่อเป็นการลดผลกระทบจากการกัดกร่อนในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูง ส่วนในภูมิภาคอื่นๆ ก็มีการใช้เทคโนโลยีการเคลือบผิวที่แตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะกับสภาพอากาศที่แตกต่าง ซึ่งประโยชน์ที่ได้นั้นก็ไม่ได้ต่างกันแต่อย่างใด es.
เพื่อเป็นการปกป้องและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบมากยิ่งขึ้น เซ็นเซอร์แรงดันสูง (HP) และเซ็นเซอร์แรงดันต่ำ (LP) ทำหน้าที่ป้องกันคอมเพรสเซอร์และวงจรทำความเย็น อีกทั้งยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการรั่วไหลของสารทำความเย็นและไมโครชิพชนิดพิเศษพร้อมข้อมูลที่มีการป้อนไว้ล่วงหน้า (Pre-loaded Data) อีกด้วย
เซ็นเซอร์ HP ทำหน้าที่ตรวจสอบมอเตอร์ด้านนอกของระบบรวมทั้งสภาพของคอยล์ร้อน ส่วนเซ็นเซอร์ LP มีหน้าที่ตรวจสอบวงจรสารทำความเย็นเพื่อดูการสูญเสียสารทำความเย็นในระบบ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำแข็งเกาะคอยล์เย็นของชุดอุปกรณ์ติดตั้งภายใน หากเซ็นเซอร์ตัวหนึ่งตัวใดเกิดทำงานผิดพลาด เครื่องปรับอากาศจะทำการตรวจวิเคราะห์ตัวเองและแสดงรหัสระบุความผิดพลาดเพื่อช่วยในการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการทำงานอย่างรวดเร็ว
เช่นเดียวกัน เครื่องปรับอากาศระบบ VRF ที่มีจำหน่ายในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริการวมทั้งประเทศแถบอ่าวเปอร์เซีย สามารถทำงานในสภาพอากาศระดับ T3 และ T4 (ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ) และสามารถทำงานในอุณหภูมิของสภาพแวดล้อมด้านนอกสูงถึง 48 องศาเซลเซียส
เครื่องปรับอากาศระบบ VRF รุ่น JNBBQ ใช้การผสมผสานของการออกแบบคอมเพรสเซอร์ที่ชาญฉลาดเข้ากับการควบคุมระบบ ที่ทำให้สามารถขยายช่วงอุณหภูมิการทำงานได้สูงถึง 54 องศาเซลเซียส เหมือนกับรุ่น PRIMAIRY ที่สามารถทนต่ออุณหภูมิสภาพแวดล้อมภายนอกอาคารที่สูงมาก เพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงานและความเย็นสบายอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เครื่องปรับอากาศรุ่นนี้ยังมาพร้อมการเคลือบผิวป้องกันการกัดกร่อน และได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทนต่อการทำงานในสภาพแวดล้อมภายนอกที่ใกล้ทะเลและชายฝั่ง
ในประเทศอินเดีย เราออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยความใส่ใจในสภาพอากาศและอุณหภูมิสภาพแวดล้อมของประเทศ ยกตัวอย่าง เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอเตอร์สำหรับที่อยู่อาศัย รุ่น Kashikoi ที่ควบคุมความชื้นได้ดียิ่งขึ้นและทำความเย็นที่เร็วขึ้น ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเย็นสบายมากยิ่งขึ้น การออกแบบผลิตภัณฑ์รุ่นนี้เกิดจากเทคโนโลยี Tropical Inverter ซึ่งใช้คอมเพรสเซอร์สำหรับทำงานในเขตร้อน (Tropical Compressor) ที่มีความเร็วที่สามารถปรับเปลี่ยนรอบมอเตอร์ RPM ได้โดยการปรับความถี่การจ่ายพลังงานไฟฟ้า
ด้วยระบบ Seamless Cascade Vector DC Inverter ที่ติดตั้งมาพร้อมกับไมโครคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการหมุนรอบของระบบ ทำให้ได้ความเย็นตามความต้องการ นอกจากนั้น ยังทำให้มั่นใจได้ว่าระบบจะมีประสิทธิภาพการทำงานเต็ม 100% แม้อยู่ในสภาพอากาศของฤดูร้อนที่อุณหภูมิสูงถึง 43 องศาเซลเซียสก็ตาม
ด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ การสร้างความเย็นสบายในอุณหภูมิสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัดสามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งแน่นอนว่า ในบรรดาผลิตภัณฑ์ของฮิตาชิยังมีนวัตกรรมที่ให้ความเย็นสบายที่สม่ำเสมอในสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด ยกตัวอย่าง เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ของฮิจตาชิที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานในทวีปอเมริกาเหนือ สามารถทำงานได้ในอุณหภูมิต่ำถึง -15 องศาเซลเซียสโดยไม่ลดประสิทธิภาพการทำงาน ในบทความครั้งหน้าเราจะมาดูกันว่ามีเทคโนโลยีอะไรบ้างที่เราได้พัฒนาขึ้นเพื่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิที่หนาวเย็น
โดย Hitachi Cooling & Heating
